SF.ความทรงจำในวันเก่าๆ yoonseo ft.royal เล็กน้อย - SF.ความทรงจำในวันเก่าๆ yoonseo ft.royal เล็กน้อย นิยาย SF.ความทรงจำในวันเก่าๆ yoonseo ft.royal เล็กน้อย : Dek-D.com - Writer

    SF.ความทรงจำในวันเก่าๆ yoonseo ft.royal เล็กน้อย

    อยากให้เรากลับไปเหมือนในอดีต

    ผู้เข้าชมรวม

    1,350

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.35K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    7
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 ส.ค. 54 / 23:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    อ่านแล้วไม่เม้น....งอนเป็นเหมือนกันนะเฟ้ย

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       


      “พี่ยุน พี่ยุน” เสียงใสๆของเด็กน้อยที่ชื่อคิม จูฮยอนวัย 4ขวบเอ่ยเรียกชื่อเด็กผู้หญิงที่ชื่อควอน ยุนอาในวัย 5 ขวบ

      “วันนี้คุงแม่ชวนไปกิงข้าวที่บ้าน”

      “กิงข้าวเหรอ…ไปสิ ไปสิ ฝีมือคุงน้าอาหร่อยจาตาย” เด็กน้อยควอน ยุนอา เอ่ยตอบเด็กหญิงตากลม

      “งั้นตอนเย็นเจอกันนะ เดี๋ยวเค้าจาไปอาบน้ำ”

      “อืม! ไปเถอะเดี๋ยวพี่จะไปบอกคุณแม่ว่าจาไปกินข้าวที่บ้านจูฮยอน”

      .

      .

      เย็นวันนั้น

      ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสียงหัวเราะของใครหลายๆคนดังขึ้น ดูสีหน้าพวกเขาช่างมีความสุข คน 9คน ผู้ใหญ่7 เด็ก2 กลับมื้ออาหารค่ำในวันนี้ แลดูแล้วมันน่าอบอุ่นยิ่งนักสำหรับผู้พบเห็น ครอบครัวสองครอบครัว กำลังจัดปาร์ตี้เล็กๆภายในบ้าน บรรดาคุณพ่อคุณแม่ และคุณอาคุณน้า นั่งจิบเบียร์อยู่ที่โต๊ะอาหาร ส่วนเด็ก 2 คน ต่างก็นอนดูดขวดนมคนละขวด อยู่หน้าโทรทัศน์ซึ่งกำลังฉายเคโรโระ

      “จูฮยอน ดูอย่างอื่นไม่ได้เหรอ พี่เบื่อแล้วอ่า” เด็กเหม่งยุนอาหันไปถาม เด็กน้อยจูฮยอน

      “มันไม่มีอันอื่นแล้ว ก็เค้าชอบดูเคโรโระนี่นา” เด็กน้อยจูฮยอนตอบอย่างใสซื่อ

      “พี่อยากดูอุลตร้าแมนอ่ะ มีมะ อุลตร้าแมน”

      “ไม่มี!! บ้านเค้ามีแต่เคโรโระ เค้าจาดูเคโรโระ”

      “แต่พี่อยากดูอุลตร้าแมน”

      “เค้าจาดูเคโรโระ”

      “จาดูอุลตร้าแมน”

      “เคโรโระ”

      “อุลตร้าแมน”

      “เคโรโระ เคโรโระ”

      “อุลตร้าแมน อุลตร้าแมน อุลตร้าแมนนนนนนนนนน” และแล้วสงครามเล็กๆของเด็ก ก็เกิดขึ้น แต่ทำไมกันนะทั้งๆที่ทะเลาะมันกลับดูน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาผู้ใหญ่

      “ถ้าพี่ยุนอยากดูอุลตร้าแมน พี่ยุนก็ไปดูที่บ้านพี่ยุนสิ ที่นี่บ้านเค้า เค้าจาดูเคโรโระ” เด็กน้อยจูฮยอนตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก ก็เป็นเด็กอยู่นี่เนอะ แต่มันกลับทำให้เด็กเหม่งที่นั่งข้างๆเกิดอาการน้อยใจ

      “ก็ได้ พี่กลับไปดูที่บ้านพี่ก็ได้ ต่อไปนี้พี่ไม่มาเล่นกับจูฮยอนแล้ว” เด็กเหม่ง ยุนอาประชดกลับแล้วเบนหน้าไปทางอื่น

      …………. (จูฮยอน)

      …………. (ยุนอา)

      “อึก ฮึก ฮึก ฮือ ฮือ ฮือ” แล้วเสียงร้องไห้ก็ดังขึ้น ทุกคนภายในบ้านหันไปมองที่จุดๆเดียว ภาพเด็กน้อยจูฮยอนร้องไห้ กับเด็กเหม่งที่ทำหน้าเหวอ ทำเอาบรรดาคุณพ่อคุณแม่ตกใจ

      “พี่ยุนใจร้าย ใจร้ายที่สุดเลย ฮือ ฮือ” เด็กน้อยจูฮยอนนั่งเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

      “ใจร้ายอาราย พี่ไม่ได้ทำอะไรซักกาหน่อย” เด็กเหม่งอิม ยุนอายังคงตกใจกับการที่ซอฮยอนร้องไห้ (ตูทำไรผิดว่ะ)

      “ก็พี่ยุนจาไม่มาเล่งกะเค้าแล้วนี่” คำตอบของเด็กตากลมทำเอาเหล่าคุณพ่อคุณแม่หัวเราะคิกคัก กลัวไม่มีเพื่อนเล่นเหรอเนี่ย น่ารักจังเลยน้า

      “คุงพ่อ!ยุนทำอารายผิดอ่ะ” ยุนอาเอ่ยถาม ควอน ยูริ ผู้เป็นบิดา

      “ยุนไม่ได้ทำอารายผิดหรอกลูก น้องแค่กลัวว่ายุนจะไม่มาเล่นกับเค้าแค่นั่นเอง ง้อน้องหน่อยสิ”ควอน ยูริตอบลูกสาวพลางอมยิ้ม

      “จาง้อยังงายละทีนี้” เด็กเหม่งนั่งเกาหัวตัวเองป้อยๆก่อนจะเอ่ยเรียกชื่ออีกคน

      “จูฮยอน”

      ………….. เงียบไม่มีสัญญาณตอบรับ

      “จูฮยอน….พี่ขอโทษ” ยุนอาพูดพลางชูนิ้วก้อยขึ้นมา

      “เชอะ”

      “ง่า…พี่ขอโทษน้า ต่อปายนี้พี่จาไม่พูดแบบนี้อีกแล้วน้า พี่จามาเล่นกะจูฮยอนทุกวันเลย”

      “แน่จายน้า” จูฮยอนหันมาถาม

      “อืม ”

      “สัญญาแล้วน้า”

      “อืม”

      “งั้นหายก็ได้” จูฮยอนพูดแล้วยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวไว้กับอีกคน

      “ฮ่า ฮ่า ฮ่า หายงอนกันซักทีนะ” ชเว ซูยองผู้เป็นอาของควอน ยุนอาเอ่ยพลางส่ายหน้าไปมากับความน่ารักของเด็กทั้งสอง

      “เอาน่าหยอง เด็กมันก็แบบนี้แหละ งอนกันไม่ถึงชั่วโมงหรอก เด็กก็อยู่ส่วนเด็ก แก่ก็อยู่ส่วนแก่ เรามากระดกแก้วต่อเถอะ”

      คิม แทยอนคุณพ่อของจูฮยอนพูดพลางจิบเบียร์ไปด้วย

      .

      .

      10 นาทีต่อมา

      “จูฮยอน!เราไปเล่นไล่จับข้างนอกกันดีม้าย” ยุนอาเอ่ยถามเด็กตากลมซึ่งจดจ่ออยู่กับโทรทัศน์

      “จาดีเหรอ คุงพ่อเคยบอกไว้ว่าอย่าไปเล่นข้างนอกตอนกลางคืน มันมืด อันตราย” จูฮยอนพูดอย่างมีหลักการ เก่งนะเนี่ย

      “คุงพ่อพี่ก็พูด แต่วิ่งกันข้างนอก ตรงบริเวณบ้านไม่เป็นรายหรอก” เด็กเหม่งยังคงตื้อไม่หยุด

      “งั้นก็ได้”

      .

      “เด็กๆไปไหนกันนะ เงียบเชียว” ควอน ยูริเอ่ยถาม

      “สงสัยคงอยู่บนห้องละมั้ง คงนั่งวาดรูประบายสีหรือเล่นของเล่นกันอยู่” คิม แทยอนตอบ

      .

      .

      .

      “แน่จริงจับให้ได้สิ จับให้ได้ ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะของยุนอาดังขึ้น ซึ่งตอนนี้เธอกำลังหนีจูฮยอนอย่างสนุกสนาน

      “แฮก แฮก พี่ยุน หยุดเลยน้า แฮก”

      “ไม่หยุด ยังงายก็ไม่หยุด ม่ายหยุด ฮ่าๆๆ”

      “พี่ยุน หยุดเดี๋ยวนี้”


      ตู้ม!!!!

      “จูฮยอน!!!!!” เสียงของยุนอาดังขึ้นเมื่อตอนนี้จูฮยอนลื่นตกลงไปในบ่อเลี้ยงปลาที่มีความลึกพอสมควร ความตกใจบวกความกลัว แทรกเข้ามาในจิตใจของเด็กน้อยจนยุนอาต้องร้องไห้

      “พี่ยุน พี่ยุน ช่วยเค้าด้วย เค้าว่ายน้ำไม่เป็น ช่วยเค้าด้วย”

      ทำไงดี ทำไงถึงช่วยได้ ทำไงดี ใช่แล้ว คุณพ่อ คุณแม่ คุณอาต้องช่วยได้แน่ๆ ใช่แล้ว’ และแล้วความคิดก็วิ่งเข้ามาในสมองก่อนที่ขาจะวิ่งไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อไปบอกผู้ใหญ่ให้มาช่วยเด็กน้อยจูฮยอน

      “ช่วยด้วย คุณพ่อ คุณแม่ ช่วยด้วย จูฮยอนตกลงไปในบ่อปลา ช่วยจูฮยอนด้วย” เด็กเหม่งบอกไปด้วยทั้งน้ำตา

      “จูฮยอน ลูก!!!” คิม แทยอนรีบวิ่งไปคนแรกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโดดลงไปเพื่อที่จะไปช่วยลูกสาวซึ่งอันเป็นที่รัก

      .

      .

      .

      เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!

      เสียงไม้เรียวฟาดลงที่ก้นของเด็กน้อยไม่ยั้ง มันช่างเจ็บปวดและทรมาณ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ทุกคนต่างก็ได้แต่มองภาพนั้นอย่างหดหู่ใจ ภาพที่ยุนอากำลังยืนกอดอกหันหลังแล้วโดนควอน ยูริ ผู้เป็นพ่อตีท่ามกลางสายตาอีกสิบคู่

      “ใครสั่งใครสอนให้ไปเล่นข้างนอกตอนกลางคืนหะ ยุนอา” เพี๊ยะ!

      “พ่อเคยบอกหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันอันตราย” เพี๊ยะ!

      “แล้วเป็นไง ได้เรื่องเลยเห็นมั๊ย นี่ถ้าจูฮยอนเป็นอะไรขึ้นมาเราจะทำยังไง” เพี๊ยะ!

      “ยุน ขอโทษ ฮือ ฮือ ยุนไม่รู้ว่าจาเป็นแบบนี้ ฮึก ฮือ ฮือ”

      “ยุนไม่รู้ว่าจาเกิดแบบนี้กับน้อง ฮือ ฮือ” ยุนอายังคงร้องไห้ไม่หยุด ดวงตาที่แดงก่ำ และร่างกายที่เริ่มอ่อนล้าเพราะถูกตีทำเอาเจสสิก้าอดสงสารลูกไม่ได้

      “ยูล พอเถอะ ลูกเจ็บไปหมดแล้ว” เจสสิก้าเดินเข้าไปหายูริ ก่อนจะบอกให้หยุดตี

      “เจ็บนะสิ จะได้จำ จะได้ไม่ต้องทำอะไรแบบนี้อีก” ยูริพูดก่อนที่จะเตรียมฟาดลงไปอีกครั้ง

      “พอได้แล้วนะ เจสขอร้อง” เจสสิก้าเดินเข้าไปกอดยุนอาแล้วเอ่ยขอร้องยูริ

      “ฉันก็ว่าหยุดได้แล้วนะยูล เด็กมันไม่รู้อะไร ไม่ผิดหรอก”

      “อีกอย่างจูฮยอนก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนี่นา ฉันไม่โกรธยุนอาหรอก” แทยอนพูดก่อนจะให้ซันนี่และฮโยยอนพายุนอาไปทำแผล

      “นี่ยูลคงทำเกินไปใช่มั๊ยเจส” ยูริเอ่ยถามเจสสิก้าหลังจากที่เจสสิก้าพามานั่งที่โซฟา

      “อันนี้เจสก็ไม่รู้ แต่ที่ยูลทำไปก็เพราะหวังดีและเป็นห่วงลูกไม่ใช่เหรอคะ”เจสสิก้าตอบพลางยิ้มให้ยูริ


      จูฮยอนซึ่งตอนนี้อยู่บนห้องกับทิฟฟานี่ผู้เป็นมารดาก็กำลังร้องไห้ ไม่ได้ร้องไห้เพราะความกลัว ไม่ได้ร้องไห้เพราะตกใจที่ลื่นตกลงไปในสระน้ำ แต่เสียงไม้เรียวที่ฟาดและเสียงร้องไห้ของเด็กเหม่งมันดังจนไปถึงห้องนอน ทำเอาจูฮยอนร้องไห้เพราะสงสารพี่ยุนของเธอ

      “แม่ค่ะ!หนูสงสารพี่ยุนจัง” จูฮยอนบอกพลางร้องไห้ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่

      “ที่พี่ยุนโดนตี เพราะหนูใช่ม้ายค่ะ เพราะหนูใช่มั๊ย ถ้าหนูไม่ตอบตกลงพี่ยุน หนูก็ไม่ต้องตกลงไปในสระน้ำ แล้วพี่ยุนก็จะไม่โดนตีด้วย” เด็กน้อยกล่าวโทษตัวเอง ทำเอาทิฟฟานี่อดสงสารไม่ได้

      หัดเป็นห่วงคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยลูกชั้น’


      ก๊อกๆๆ จูฮยอน พ่อเปิดเข้าในนะลูก คิม แทยอนเดินเข้ามาดูอาการลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

      “เป็นไงมั่งค่ะ ไม่สบายหรือเปล่า ลูกรักของพ่อ” แทยอนเอามือแตะหน้าผากของจูฮยอนเพื่อวัดไข้

      “หนูไม่เป็นรายค่ะคุณพ่อ แล้วพี่ยุนอยู่ไหนค่ะ หนูอยากเจอพี่ยุนจัง” จูฮยอนพูดพลางชะเง้อที่ประตูเผื่อว่าพี่ยุนของเธอจะมาหาเพราะตอนนี้เสียงไม้เรียวก็เงียบไปสักพักนึงแล้ว คงไม่โดนตีอีกแล้วละ

      “พี่ยุนของหนู ตอนนี้พ่อให้น้าซันนี่กับน้าฮโยช่วยกันทำแผลอยู่ลูกเดี๋ยวก็คงขึ้นมา” แทยอนตอบลูกสาว


      ก๊อกๆๆ แอ๊ดดดดดด เสียงเปิดประตูดังขึ้น ยุนอานั่นเอง ตอนนี้คราบน้ำตาก็หายหมดแล้ว ดวงตาที่แดงก่ำก็เริ่มเป็นปกติ

      เด็กน้อยเดินมาที่เตียงของจูฮยอนอย่างช้าๆ ทำเอาจูฮยอนตอนนี้ยิ้มแก้มปริ บ่นถึงก็มาเลยน้า ให้ตายสิ

      “งั้นพ่อกับแม่จะออกไปนอกห้องนะ” ทิฟฟานี่พูดแล้วพาแทยอนไปด้วยคิดว่าเด็กคงอยากจะอยู่ด้วยกันสองคน

      …………. เงียบ

      …………. เงียบ

      “จูฮยอนเจ็บตรงไหนบ้างอะป่าว พี่ขอโทษนะ” ยุนอาเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน หลังจากนั่งลงแทนที่ทิฟฟานี่

      “ไม่เลย ไม่เลยซักนิด”

      “แล้วพี่ยุนละ เจ็บตรงไหนบ้างป่าว” จูฮยอนถามบ้าง

      “ไม่เลย ไม่เลยซักนิดเหมือนกาน” ยุนอาพูดพลางยิ้มแฉ่งให้เห็นฟันขาว ทั้งๆที่เจ็บมาก แต่ก็ไม่อยากบอก

      “ขี้โม้…เค้าได้ยินเสียงพี่ยุนร้องไห้ซะดังเลย” จูฮยอนตอบกลับ ทำเอาคนที่ฟังยิ้มแหยๆ

      “ได้ยินด้วยเหรอ น่าอายจัง แหะๆ” ยุนอาเกาหัวด้วยความเขินอาย”

      พรึบ จู่ๆเด็กน้อยจูฮยอนก็โผลเข้ากอดยุนอาแล้วร้องไห้ ทำเอาเด็กเหม่งนั่งทำหน้างง

      “ร้องไห้ทำมายจูฮยอน” ยุนอาถามอย่างเป็นห่วง

      “เค้าเป็นห่วงพี่ยุนนะ ตอนที่พี่ยุนร้องไห้ เค้าก็ร้องไปด้วย เค้าไม่อยากให้พี่ยุนร้องไห้เลย” จูฮยอนตอบก่อนจะเช็ดน้ำตาตัวเอง

      “พี่ก็ไม่อยากให้จูฮยอนร้องเหมือนกาน” ยุนอาพูดก่อนจะลูบหัวจูฮยอนเป็นการปลอบ ทำไมกัน ทำไมน้องต้องร้องไห้ด้วย ไม่อยากให้น้องร้องไห้ ไม่อยากเห็นน้ำตาของน้อง เพราะทุกครั้งเวลาที่จูฮยอนร้องไห้ตรงหน้าเธอ มันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องเลย

      “อย่าร้องไห้นะจูฮยอน ถ้าจูฮยอนร้องไห้ ต่อไปนี้พี่จาไม่มาเล่นกับจูฮยอนจริงๆด้วย” ยุนอานำจุดอ่อนของเด็กตากลมมาเป็นเครื่องต่อรอง แต่ก็ได้ผล เด็กน้อยเริ่มหยุดร้องไห้ แต่ก็ได้ยินเสียงสะอื้นบ้าง เพราะกำลังพยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้จุดอ่อนของเด็กน้อยจูฮยอนคือกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนเล่น กลัวว่าจะต้องอยู่คนเดียว

      “งั้นเค้าไม่ร้องก็ได้” เด็กน้อยผละออกจากอ้อมกอดของคนเป็นพี่ก่อนจะยิ้มให้เห็น

      “ยุน! พ่อกับแม่จะกลับแล้วนะลูก” เจสสิก้าตะโกนบอกยุนอา

      “ค่า” เด็กเหม่งวิ่งไปหาเจสสิก้าที่ชั้นล่าง ก่อนจะเดินรีบขึ้นมาบนห้องนอนของจูฮยอน

      “จาไปแล้วเหรอค่ะ” จูฮยอนถาม แต่คำตอบที่ได้คือ ส่ายหน้า ทำเอาเด็กน้อยงงไปเลยทีเดียว

      “คืนนี้พี่จานอนกับจูฮยอนที่นี่ พี่ขอคุงแม่แล้ว คุงแม่อนุญาต พี่จาได้ดูแลจูฮยอนด้วย” คำตอบของยุนอาทำเอาเด็กตากลมยิ้มกว้าง ก็มันดีใจนี่นา จะได้มีเพื่อนนอน จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวในคืนนี้ หรืออาจจะเล่นด้วยกันตลอดคืนก็ได้

      “เขยิบไปหน่อยสิ พี่นอนไม่ได้” เด็กเหม่งกระโจนขึ้นเตียงก่อนจะบอกให้คนข้างๆเว้นที่ว่างให้เธอ

      “เตียงจูฮยอนนุ๊มนุ่ม” เด็กเหม่งสปริงตัวไปมาบนเตียง

      “พี่ยุน! เค้าง่วงแล้ว” เสียงหาวของเด็กน้อย บ่งบอกได้เลยว่าเธอง่วงแค่ไหน มันดึกแล้วนี่

      “ง่วงก็นอนสิ” เด็กเหม่งตอบก่อนจะล้มตัวนอนลงข้างๆ

      “พี่ยุน”

      “หืม”

      “พี่จะดูแลเค้าดีกว่าดูแลคนอื่นม้าย” เด็กตากลมถามก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้เด็กเหม่ง

      “ไม่รู้สิ แต่คงจะดูแลดีกว่าคนอื่นอ่ะแหละ”

      “แล้วพี่ยุนจะทิ้งเค้าไปม้าย” เด็กน้อยจูฮยอนยังคงถามต่อ

      “ไม่รู้สิ แต่คงไม่ทิ้งหรอก พี่ไม่ทิ้งจูฮยอนไปไหนหรอก พี่รักจูฮยอนจาตาย” เด็กเหม่งตอบแล้วยิ้มให้

      “จูฮยอน” คราวนี้เด็กเหม่งกลับเรียกขึ้นบ้าง

      “คะ”

      “ฝันดีนะ” ยุนอาบอกแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้จูฮยอน

      “พี่ยุนก็ฝันดีนะ” จูฮยอนยิ้มก่อนจะนอนหลับไป มองดูแล้วต่างคนต่างก็คงจะนอนฝันดีสินะ

      .

      .

      .

      12 ปี ผ่านไป ช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน

      “เฮ้ย! ไอ้ยุนมานั่งทำหอกอะไรตรงนี้ว่ะ” เสียงของแอมเบอร์เพื่อนรักเอ่ยทักยุนอาที่นั่ง อยู่ริมตลิ่งข้างๆแม่น้ำ

      “แล้วแกมาทำไมที่นี่ว่ะ ไม่ไปเล่นบาสกับพวกมินโฮหรือไง” ยุนอาถามกลับ

      “ไปดิ!ก็มาชวนแกไปเล่นด้วยเนี่ย ขาดแกแล้วทุกคนเหงา ไปมะ”

      “ไปก่อนเถอะ ตอนนี้ฉันไม่อยากเล่น ฉันอยากอยู่คนเดียว ฉันกำลังใช้ความคิด”

      “คิดแต่เรื่องของฮโยมินแฟนแกสินะ ว่าไปฉันก็ไม่เห็นเค้าหลายวันแล้วนะ ไปไหนว่ะ” แอมเบอร์ถามถึงแฟนของยุนอา

      “ไม่รู้ดิ เห็นบอกว่าไปติวซัมเมอร์ที่ต่างจังหวัด ไม่โทรมาเป็นอาทิตย์แล้ว โทรไปเมื่อไหร่ก็บอกว่าไม่ว่าง” ร่างสูงตอบ

      “แล้วจูฮยอนน้องรักของแกละ ไปไหนซะแล้ว เห็นคบกับรุ่นพี่ยงฮวาได้สองเดือนแล้วนี่” ทันทีที่แอมเบอร์ถามทำเอายุนอาถึงกับเปลี่ยนสีหน้า ก่อนจะหันมามองแอมเบอร์ช้าๆ

      “ไม่รู้โว้ย! เรื่องของยัยนั่นฉันไม่สนหรอก จะทำอะไรก็เรื่องของเค้าไม่เกี่ยวกับฉันนี่หว่า” เป็นแบบนี้ทุกที เวลาใครถามถึงจูฮยอนยุนอาก็เป็นแบบนี้ แต่ถ้ามีชื่อยงฮวาเล็ดลอดมาด้วย มันจะยิ่งทำให้ยุนอาอารมณ์เสียขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

      “แหมๆๆ ถามแค่นี้ถึงกับขึ้นเสียงเลยเหรอว่ะเพื่อนเลิฟ คิดอะไรกับน้องเค้าหรือเปล่าเนี่ย” แอมเบอร์แหย่ยุนอา แต่เด็กเหม่งกลับไม่เล่นด้วยแถมเบนหน้าไปทางอื่น

      “ไม่เลยซักนิด ฉันกับจูฮยอนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ฉันไม่คิดอะไรกับยัยนั่นหรอก”

      “นี่แกกะจะบอกฉันว่า แกไม่ได้รักจูฮยอนว่างั้นเถอะ” แอมเบอร์ถามยุนอา

      “อืม! นี่! ฟังฉันนะแอมเบอร์ ฉัน-ไม่-เคย-คิด-อะ-ไร-กับ-จู-ฮยอน-เกิน-พี่-น้อง-โว้ย” ยุนอาตอบอย่างฉะฉาน แล้วลุกเดินไป

      “นี่แกจะไปไหนว่ะ ไม่เล่นบาสแล้วเหรอ” มันจะไปไหนของมัน สนามบาสมันอยู่อีกทางไม่ใช่เหรอ

      “ฉันจะกลับบ้าน ไม่มีอารมณ์เล่นแล้ว” ยุนอาพูดก่อนจะเดินไปที่รถ

      “พี่ยุน!รอฉันด้วย” เสียงๆหนึ่งดังมาจากข้างหลัง เสียงจูฮยอนนั่นเอง เธอกำลังบอกลายงฮวา คงไปเดทกันมาสินะ

      “ฉันไปก่อนนะคะ พี่ยงฮวา” จูฮยอนโบกมือให้ยงฮวา แล้วเดินมาที่รถของยุนอาก่อนจะขึ้นรถไป

      .

      “ไปเดทกันมาสินะ สนุกมั๊ย” ยุนอาเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน หลังจากที่เงียบมานาน

      “ก็ดีนี่คะ เค้าก็เทคแคร์ดูแลดี พี่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ” จูฮยอนตอบ

      “เหอะ!นั่นสินะ แต่ก็ระวังด้วยล่ะ สมัยนี้ไว้ใจใครไม่ค่อยได้”

      “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ สำหรับพี่ยงฮวาแล้ว เค้าไม่ทำแบบนั้นหรอก”

      “แต่ก็ไม่แน่ ได้ข่าวว่าเค้าเคยควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่ใช่เหรอ ระวังโดนหลอก เธอยิ่งซื่อบื้ออยู่ด้วย” คำพูดของยุนอาทำเอาจูฮยอนหันขวับ

      “ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงที่งี่เง่า และซื่อบื้อนะคะ”

      “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงไม่ใช่เหรอ” ยุนอายังคงถียงต่อ

      “พี่ยุน! เมื่อไหร่พี่ยุนจะเลิกชวนฉันทะเลาะซักที เมื่อไหร่พี่จะเลิกดูถูกฉันซักที” ภายในรถเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ

      “ฉันจะเลิกดูถูกเธอก็ต่อเมื่อเธอโตเป็นผู้ใหญ่และเลิกซื่อบื้อได้ซักทีไง”

      “’งั้นทีหลังไม่ต้องมารอรับฉันแล้วนะคะ ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน พี่จะได้รู้ซักทีว่าฉันไม่ใช่เด็ก” ร่างบางประชด

      “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าคุณอาแทยอนไม่ฝากให้ฉันดูแลเธอละก็ ฉันไม่มีวันไปรับไปส่งเธอหรอก” ร่างสูงตวาดกลับ ทำเอาคนที่นั่งข้างๆถึงกับสะอึกและเริ่มหน้าแดงก่ำ

      ‘คุณพ่อฝากให้พี่มาดูแลฉันเหรอค่ะ พี่คงไม่เต็มใจที่จะดูแลฉันเลยสินะ พี่ถึงทำท่าเหมือนกับรำคาญฉันแบบนั้น’ อาการน้อยใจเกิดขึ้นภายในจิตใจของร่างบาง มันเป็นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ ตั้งแต่ตอนอายุ 14 ตอนที่เธอเริ่มชอบใคร หรือมีใครมาชอบเธอก็เริ่มคุยกับร่างสูงดีๆไม่ได้ซักที 2ปีกว่าแล้ว ที่เวลาเจอหน้ากันเมื่อไหร่คุยได้ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ต้องทะเลาะกัน จากเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ทุกที บางครั้งก็ต้องร้องไห้ออกมา อยากเป็นเหมือนเดิม อยากสนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ อยากเล่นด้วยกันเหมือนตอนเด็กๆอีก มันจะมีอีกครั้งมั๊ยค่ะ พี่ยุน!!

      .

      .

      เอี๊ยด!! เสียงเบรกรถดังขึ้นเมื่อยุนอาหยุดรถตรงหน้าบ้านของจูฮยอน

      “ฉันไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่มาส่ง ที่หลังพี่ไม่ต้องมารับฉันหรือไปส่งฉันแล้วก็ได้ค่ะ” ว่าแล้วร่างบางก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้ร่างสูงนั่งเงียบๆคนเดียวภายในรถ

      “เธอคงรำคาญฉันสินะ จูฮยอน” ร่างสูงพึมพำก่อนจะขับรถออกไป

      .

      .

      ยุนเป็นอะไรมั๊ยลูก วันนี้ไม่ออกไปหาน้องเหรอ ยูริเอ่ยถามยุนอาหลังจากสังเกตได้ว่าตั้งแต่น้องมีแฟนดูยุนอาจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ วันนี้ก็เช่นกัน

      “ไม่ค่ะ ยุนไม่อยากไป ป่านนี้น้องก็คงจะไปกับยงฮวาอะไรนั่นแล้วละมั้ง” ยุนอาตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถ

      “แล้วนั่นลูกจะออกไปไหนนะยูล ไม่กินข้าวเหรอ” เจสสิก้าเดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยถามยูริที่มองดูยุนอาด้วยความเป็นห่วง

      “ดูท่ามันจะไม่มีอารมณกินแล้วละเจส ช่างมันเถอะเรากินเองสองคนก็ได้” ยูริตอบก่อนพาเจสสิก้าไปที่โต๊ะอาหาร

      .

      ปี๊น ปี๊น!!! เสียงแตรรถดังอยู่ที่หน้าของตระกูลชเว

      “อาหยอง อาหยองอยู่มั๊ย” ยุนอาตะโกนถามคนที่อยู่ภายในบ้าน ก่อนที่ซันนี่จะเดินมาเปิดประตูให้

      “ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่หลานรัก” ซันนี่เอ่ยถามยุนอา

      “ลมคิดถึงคุณอากับอาสะใภ้” ยุนอาตอบซันนี่ก่อนจะเดินนำเข้าบ้านไป

      “ไม่ไปหาจูฮยอนเหรอ” ซูยองถามหลังจากที่ไปให้อาหารนกหัวจุกมา

      “ถามอีกแล้ว จะถามถึงจูฮยอนทำไมเนี่ย เมื่อกี้พ่อยูลก็ถาม” ยุนอาตอบแบบไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่

      “อยากรู้ไม่ได้เหรอไง เห็นเมื่อก่อนอะไรก็จูฮยอน จูฮยอน”

      “เฮ้อ! อาว่าจูฮยอนจะรำคาญยุนมั๊ย” ยุนอาถามร่างโปร่ง

      “น้องจะไปรำคาญยุนเรื่องอะไร”

      “ไม่รู้สิอา ยุนพูดกับน้องไม่ดีเกินไปหรือเปล่า ยุนมันงี่เง่ามากเลยใช่มั๊ย”

      “อันนี้อาก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆยุนต้องลองคุยกับน้อง เปิดใจคุยกันซะ มีอะไรก็พูด อย่าปิดบัง” ซูยองให้คำแนะนำแก่ร่างสูง

      “อาเห็นด้วยนะยุน มีอะไรก็พูด และอย่าฝืนความรู้สึกตัวเอง” เสียงซันนี่แทรกเข้ามาก่อนจะถือถาดใส่น้ำส้มสามแก้ว

      “ยุนฝืนอะไร ไม่ได้ฝืนซะหน่อย ช่างเถอะยุนไปนะ วันนี้นัดกับแอมเบอร์ไว้” ยุนอาบอกลาอาทั้งสอง ก่อนที่จะกระดกน้ำส้มทีเดียวหมดแก้วแล้วเดินออกไป

      “นี่มันรู้ใจตัวเองหรือเปล่าเนี่ย” ซูยองบ่นกับร่างเล็ก

      “ทั้งปากแข็ง ทั้งปากไม่ตรงกับใจ จะรอดมั๊ยเนี่ย” ซันนี่บ่นบ้าง

      .

      .

      “จูฮยอนเช็ดโต๊ะให้น้าหน่อยสิ” ฮโยยอนบอกกับหลานสาวในระหว่างที่ตัวเองเอาจานไปเก็บ

      “นึกยังไงมาช่วยน้าทำความสะอาดบ้าน”

      “ก็อยากหาอะไรทำแก้เครียดนิดหน่อยค่ะ” จูฮยอนตอบ

      “ถ้าให้เดาคงทะเลาะกับเด็กเหม่งมาสินะ” ฮโยยอนถามอย่างรู้ทัน ก็แหม คงไม่มีใครทำให้หลานฉันอารมณ์เสียได้นอกจากลูกกวางบ้านตระกูลควอนหรอก

      “ไม่รู้ทำไมหมู่นี้พี่ยุนต้องชวนทะเลาะด้วยก็ไม่รู้” จูฮยอนเอ่ยออกมา จนฮโยต้องหันมามอง

      “แล้วเราไปทำอะไรให้เด็กเหม่งมันไม่พอใจหรือเปล่า”

      “ไม่นี่ค่ะ หนูไม่ได้ไปทำอะไรให้พี่เค้าเลย แล้วทุกครั้งที่หนูอยู่กับพี่ยงฮวา พี่ยุนก็จะอารมณ์ไม่ดีแล้วก็ชวนทะเลาะตลอด”

      “พูดถึงยงฮวา น้าถามหน่อยได้มั๊ยจูฮยอน” ฮโยยอนถาม

      “ว่ามาสิค่ะ”

      “หนูรักยงฮวาจริงหรือเปล่า” คำถามของฮโยยอนทำเอาร่างบางชะงัก

      “ไม่รู้สิค่ะ เพียงแต่ว่าเวลาหนูอยู่กับพี่ยงฮวาแล้วหนูรู้สึกสบายใจ” จูฮยอนตอบน้าสาวที่กำลังกวาดบ้าน

      “แค่นี่เองเหรอ” ฮโยยอนถามต่อ

      “หมายความว่าไงคะ”

      “น้าหมายความว่า นอกจากรู้สึกสบายใจแล้ว ไม่มีอย่างอื่นแล้วเหรอ เขิน อาย ไม่มีเหรอ”

      “ไม่นี่ค่ะ ทำไมเหรอ” ก่อนที่ฮโยยอนจะตอบ มือถือของร่างบางก็ดังซะก่อน

      “ว่าไง นิโคล” จูฮยอนตอบคนที่อยู่ปลายสาย

      “ได้ๆ ที่ไหน”

      “โอเคเดี๋ยวเจอกัน” จูฮยอนวางสาย ในสายตางุนงงของคนเป็นน้า เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

      “น้าค่ะ หนูขอโทษด้วยนะ ตอนนี้หนูไม่ว่างแล้วค่ะ” จูฮยอนหันมาบอกฮโยยอนตอนวางสายเสร็จ

      “มีธุระก็ไปเถอะ รู้สึกว่าจะด่วนมากเลยใช่มั๊ย”

      “ค่ะ งั้นหนูไปนะ” จูฮยอนบบอกน้าสาวก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วโบกรถแท็กซี่

      “แล้วหนูรู้สึกกับยุนอา เหมือนกับที่หนูรู้สึกกับยงฮวาหรือเปล่าจูฮยอน” ร่างเล็กได้แต่บ่นเบาๆ

      .

      “ไหนอ่ะนิค” จูฮยอนถามทันทีที่เจอหน้าเพื่อนสาว

      “นั่นไงแก นั่นไงเห็นมั๊ย เค้าอยู่ตรงนั้น กับผู้หญิงคนนั้นในร้านนั่นอ่ะ” นิโคลชี้ไปที่ชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างในร้านไอศครีม

      “พี่ยงฮวา” จูฮยอนเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มที่กำลังป้อนไอศครีมให้กับหญิงสาวอีกคน

      “นี่มันอะไรกันค่ะ” จูฮยอนถาม

      “มะ มาที่นี่ได้ไงเนี่ย จูฮยอน” ยงฮวาไม่ตอบคำถามแต่ถามจูฮยอนกลับ

      “ฉันมาได้ไงมันไม่สำคัญหรอกค่ะ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครค่ะ” จูฮยอนถามยงฮวาอย่างเอาเรื่อง เธอโดนเค้านอกใจเหรอเนี่ย

      “ฉันก็เป็นแฟนพี่ยงฮวานะสิ แล้วเธอเป็นใครเนี่ย” หญิงสาวที่อยู่ในเหตุการณ์พูดขึ้นทำเอายงฮวาหน้าซีด

      “พี่ยงฮวา พี่นอกใจฉันเหรอค่ะ” จูฮยอนตวาดกลับทำเอาคนในร้านหันมามอง

      “คะ คือ” ชายหนุ่มพูดไม่ออก ทำได้แต่ยืนหน้าซีดตรงนั้น

      “พูดไม่ออกสินะคะ พี่ยงฮวา! เราเลิกกันเถอะ” สิ้นเสียงจูฮยอนก็รีบเดินออกไปนอกร้าน โดยมีนิโคลเดินตามหลังมาติดๆ

      “จูฮยอน!ฉันเสียใจด้วยนะ” นิโคลเอ่ยกับจูฮยอน แต่ร่างบางทำได้เพียงหันมายิ้มให้ก็เท่านั้น

      “ไม่เป็นไรหรอกนิค ขอบใจมากนะถ้าฉันไม่เห็นกับตา ฉันคงจะเป็นคนที่งี่เง่า และซื่อบื้ออยู่แบบนี้” ซื่อบื้อ ประโยคนี้ทำให้เธอคิดถึงร่างสูง คนชอบว่าเธอ คนที่บอกว่าเธอไม่รู้จักโต คนที่ชอบบอกว่าเธอซื่อบื้อ ‘ยุนอา’

      “นิคจะกลับบ้านก็ได้นะ ฉันไม่เป็นไรหรอก ฉันขอเดินเล่นแถวๆสวนสาธารณะนี่ก่อนก็แล้วกัน” จูฮยอนบอกเพื่อนสาวเพราะไม่อยากจะรบกวนอีกอย่างเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก

      “งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าทำอะไรแผลงละ” นิโคลพูดก่อนจะบอกลา แล้วปล่อยให้ร่างบางอยู่คนเดียวที่ริมสระน้ำตรงสวนสาธารณะ

      “ทำไมนะ ทั้งๆที่รู้ว่าเค้านอกใจ แต่ไม่ยักกะเจ็บ ไม่มีน้ำตาซักหยด” ร่างบางพึมพำเบาแล้วนั่งลงตรงม้านั่ง

      .

      “เธอเลิกกับฉันทำไมฮโยมิน ฉันทำอะไรผิด” เสียงๆหนึ่งดังเค้ามาในโสตประสาทของร่างบาง มันเป็นเสียงที่คุ้นหู เสียงแบบนี้ มีแค่คนเดียวเท่านั้น ‘พี่ยุนอา’ จูฮยอนหันขวับไปเจอภาพที่ยุนอากำลังจับข้อมือของฮโยมินแต่ถูกสะบัด

      “เพราะเธอไม่ค่อยแคร์ฉัน เพราะเธอดูแลฉันไม่ดีไงยุนอา” ฮโยมินพูดแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ยุนอายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

      “โธ่เว้ย!” ร่างสูงตะโกนออกมาแล้วเตะกระป๋องน้ำอัดลมกระเด็นไปไกลอย่างอารมณ์เสีย

      “อารมณ์เสียแล้วทำลายข้าวของมันไม่ดีเลยนะค่ะ” จูฮยอนเดินออกมาจากหลังต้นไม้หลังจากดูเหตุการณ์มานาน

      “เธอ! เธอมาทำไมที่นี่จูฮยอน” ร่างสูงพยายามปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น เพราะยังไม่อยากชวนร่างบางทะเลาะตอนนี้

      “ฉันมาเดินเล่นค่ะ” ร่างบางตอบก่อนจะเดินไปหายุนอา

      “เธอตั้งใจจะมาเยาะเย้ยฉันสินะ เมื่อกี้เธอก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ”

      “เมื่อไหร่พี่จะเลิกมองฉันในแง่ลบซะที”

      “ฉันเคยบอกเธอไปแล้วนี่ว่า ฉันจะเลิกก็ต่อเมื่อเธอหายซื่อบื้อไง”

      “ฉันหายแล้วค่ะ ฉันหายซื่อบื้อแล้ว พี่พูดถูกทุกอย่าง เค้านอกใจฉัน” ร่างบางก้มหน้าตอบแล้วก็ร้องไห้ออกมา มันทำให้ร่างสูงถึงกับอึ้ง

      ‘ ร้องไห้อีกแล้ว ไม่อยากเห็น ไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอ ไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอเลย’ ร่างสูงได้แต่มองร่างบางอย่างเจ็บปวดก่อนจะเข้าดึงร่างบางเข้าไปกอดแล้วปล่อยให้เธอร้องไห้แบบนั้น

      ‘เธอคงรักเค้ามากสินะ เธอคงรักเค้ามาก เธอถึงร้องไห้แบบนี้ ขอโทษด้วยนะจูฮยอนทั้งๆที่เธอก็มีเรื่องไม่สบายใจ แต่ฉันกลับทำให้เธอร้องไห้ ฉันเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องมากๆเลย’ ร่างสูงยังคงโทษตัวเองโดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างบางก็กำลังคิดเรื่องของเธออยู่เหมือนกัน

      ‘ฉันไม่อยากให้พี่เห็นน้ำตาของฉัน ฉันไม่อยากอ่อนแอให้พี่เห็น ฉันอยากให้พี่ได้รู้ว่าฉันไม่ใช่เด็ก ฉันไม่อยากให้พี่ต้องมากังวลและฉันก็ไม่อยากให้พี่ต้องมามองว่าฉันซื่อบื้อ’ การที่ร่างบางร้องไห้ไม่ได้เจ็บปวดกับการที่โดนยงฮวานอกใจ แต่มันเจ็บปวดเวลาที่โดนยุนอามองเธอแบบนั้น

      .

      .

      “ตกลงเธอบอกเลิกเค้างั้นสิ” ยุนอาเอ่ยถามหลังจากนั่งลงตรงม้านั่ง ตอนนี้น้ำตาของร่างบางได้หายไปหมดแล้วมันกลับกลายเป็นเสียงพูดคุยของวัยรุ่นทั้งสอง ที่มานั่งปรับทุกข์กัน

      “ก็เค้านอกใจฉันนี่ค่ะ จะให้ฉันคบต่อ ฉันก็ได้กลายเป็นซื่อบื้อจริงๆหรอก” ร่างบางตอบกลับทำเอายุนอายิ้มไม่หุบ รู้สึกดีชะมัดที่รู้ว่าเธอเลิกกับเค้า นี่ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัวไปใช่มั๊ย

      “แล้วพี่ล่ะคะ ฉันเสียใจด้วยนะที่เค้าเลิกกับพี่” จูฮยอนบอกยุนอา

      “ไม่เป็นไรหรอก มันก็สมควรโดนบอกเลิกอยู่แล้วนี่นา ฉันคงจะไดูแลเค้าไม่ดี เหมือนที่เค้าบอกนั่นแหละ” ยุนอาพูดแล้วมองไปบนท้องฟ้า ดูสีหน้าไม่เหมือนกับคนอกหักเลยซักนิด

      “แล้วทำไมพี่ถึงดูแลเค้าละ ฉันว่าพี่เป็นคนที่คอยเทคแคร์ดูแลคนอื่นดีออก” ร่างบางถามยุนอา แต่คำตอบที่ได้ก็คือเงียบ เงียบอย่างเดียวเท่านั้น

      …………..ยุนอา

      “พี่ยุน พี่ยุนค่ะ พี่ฟังฉันอยู่หรือเปล่า” จูฮยอนสะกิดที่ต้นแขนของยุนอา ทำเอาร่างสูงสะดุ้ง

      “หะ หา เมื่อกี้เธอถามว่าอะไรนะ” ร่างสูงหันมาถามจูฮยอนอีกครั้ง

      “ฉันถามว่า ทำไมพี่ถึงดูแลเค้าไม่ดี ทั้งๆที่พี่ก็ดูแลคนอื่นดีออก” ร่างบางทวนคำถาม

      “ที่ฉันดูแลคนอื่นไม่ดี หรือที่ฉันไม่ค่อยจะดูแลคนอื่นก็เพราะ……” ร่างสูงพูดแล้วก็หยุดเพียงเท่านั้น ปล่อยให้ร่างบางรอลุ้นว่าเค้าจะตอบอะไร

      “เพราะอะไรคะ”

      “เพราะฉันไม่อยากดูแลคนอื่นให้ดีกว่าที่ฉันดูแลเธอไงจูฮยอน” คำตอบของร่างสูงทำเอาร่างบางถึงกับอึ้ง

      “ทุกครั้งที่ฉันอารมณ์ไม่ดีเวลาเธออยู่กับคนอื่น หรือเวลาที่เธอออกไปไหนกับใครโดยไม่บอกฉันมันเป็นเพราะฉันหึงเธอ”

      “ฉันรักเธอนะจูฮยอน พี่รักเธอนะ” ร่างสูงบอกความในใจของตัวเอง ที่ผ่านมาฉันคงไม่รู้ใจตัวเองสินะ ฉันหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าฉันคิดกับเธอแค่พี่น้อง แต่ตอนนี้ฉันรู้ความจริงแล้วว่าฉันรักเธอ แล้วเธอละคิดกับยังไงกับฉัน ‘จูฮยอน’

      “เธอคิดยังไงกับพี่ จูฮยอน” ร่างสูงเป็นฝ่ายถามบ้าง ถึงคำตอบจะเป็นยังไง เธอก็พร้อมที่จะยอมรับมัน

      “ฉะ ฉัน ฉัน” บรรยากาศรอบข้างถึงจะเสียงดังแค่ไหน แต่มันก็ยังได้ยินอยู่ดี เสียงหัวใจและลมหายใจของคนสองคน

      ”ฉันก็รักพี่นะคะพี่ยุน”ทันทีที่ร่างบางตอบ ทำเอาร่างสูงถึงกับกระโดดโลดเต้นไปมาราวกับว่าได้เจอSNSDตัวเป็นอย่างงั้นแหละ ใครกันแน่นะที่ไม่รู้จักโต

      “เธอพูดจริงนะจูฮยอน เธอไม่ได้หลอกพี่นะ” ยุนอาถามซ้ำอีกครั้งเพราะกลัวว่าเธอจะหูฝาด

      “ค่ะ ฉัน-รัก-พี่-นะ-คะ-พี่-ยุน” ร่างบางตอบเป็นวรรคๆ

      “ไชโย”เสียงของร่างสูงตะโกนเสียงดังทำเอาก่อนจะดึงร่างบางเข้าไปกอดอย่างไม่อายคนที่มองมา

      “พี่คงจะไม่ทิ้งฉัน หรือนอกใจฉันนะคะ”

      “ไม่!ฉันจะไม่มีวันทิ้งเธอ ฉันจะไม่นอกใจเธอเด็ดขาด” เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างบางจึงกอดร่างสูงให้แน่นกว่าเดิม พลางคิดถึงคำพูดในอดีต


      พี่ยุน”

      หืม”

      พี่จะดูแลเค้าดีกว่าดูแลคนอื่นม้าย”

      ไม่รู้สิ แต่คงจะดูแลดีกว่าคนอื่นอ่ะแหละ”

      แล้วพี่ยุนจะทิ้งเค้าไปม้าย”

      ไม่รู้สิ แต่คงไม่ทิ้งหรอก พี่ไม่ทิ้งจูฮยอนไปไหนหรอก พี่รักจูฮยอนจาตาย”


      ฉันก็จะดูแลพี่ให้ดีกว่าที่คนอื่นเหมือนที่พี่ดูแลฉัน และฉันก็ไม่ทิ้งพี่เหมือนที่พี่ทิ้งฉัน ฉันรักพี่มากนะค่ะพี่ยุน’

      .

      .

      “เฮ้อ!ในที่สุดลูกฉันก็มีความสุขได้ซักที” ยูริบ่นออกมาหลังจากที่นำกล้องส่องทางไกลเก็บใส่กระเป๋า

      “นั่นเดะในที่สุดลูกฉันก็ดีกับลูกแกได้ซักที” แทยอนพูดบ้าง

      “ลูกๆมีความสุขเราก็มีความสุขเนอะแทแท” ทิฟฟานี่บอก

      “ถ้าฉันไม่สะกดรอยตามจูฮยอนมาก็คงไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเรื่องดีแบบนี้ขึ้น” ฮโยยอนพูดแล้วอมยิ้ม

      “หวังว่าไอ้เหม่งคงจะไม่ทำตัวงี่เง่าใส่น้องอีกนะ” ซูยองพูดแล้วหลังจากที่แอบหลบอยู่หลังพุ่มไม้ใกล้ร่างของทั้งสอง

      “คงไม่แล้วล่ะอา ยุนไม่ทำแบบนั้นแล้วล่ะ” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง

      “อืม!ดีแล้วละ” ซูยองตอบก่อนที่จะโดนใครหลายๆคนสะกิด พอหันมาขวับ ก็มาเจอยุนอากับจูฮยอนอยู่ด้านหลัง

      “พวกพ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ” จูฮยอนถามผู้ใหญ่ทั้งหลาย

      “พ่อกับแม่มาเดินเล่นจ๊ะ” แทยอนตอบ

      “แล้วพ่อกับแม่ละมาทำอะไรที่นี้” ยุนอาถามยูริกับเจสสิก้าบ้าง

      “พ่อกับแม่ก็มาเดินเล่นจ๊ะ” เจสสิก้าตอบ

      “มาเดินเล่น แล้วเอามาทำไมเนี่ยกล้องส่องทางไกล” ยุนอายังคงถามต่อเมื่อเห็นกล้องส่องทางไกลอยู่ในมือของคนเจ็ด

      “นั่นสิค่ะ สำหรับพวกคุณพ่อมันยังคงมีประโยชน์ แต่พวกคุณแม่มันไม่น่าจะได้ใช้นะ”

      “ประโยชน์ อะไรคือประโยชน์ ” ยูริถาม

      “ก็เอาไว้ส่องสาวไงพ่อ” คำตอบของยุนอา ทำเอาแทยอน ยูริ และซูยองยิ้มอย่างมีเลศนัย นี่ถ้าเด็กเหม่งไม่บอกนึกไม่ถึงเลยนะเนี่ย หึหึ แต่ความคิดก็หยุดไว้แค่นั้น เมื่อหันมาเจอคุณศรีภรรยาทั้งสามมองหน้าอย่างเอาเรื่อง

      “ยิ้มอย่างนั้นทำไม จะเอาไปส่องสาวจริงๆใช่มั๊ย” เจสสิก้าพูดพลางบิดหูยูริเต็มแรงก่อนจะพาไปขึ้นรถ

      “เจี๊ยก!เบาๆ เจส เบาๆ อู๊ยยยยย !!!”

      “แทแทก็อีกคนมีลูกมีเมียแล้วริจะส่องสาวเหรอ” ทิฟฟานี่บิดหูแทยอนบ้าง ทำเอาแทยอนแทบจะตั้งตัวไม่ทัน

      “เอ๋ง! เปล่านะฟานี่ แทแทไม่เคยคิดแบบน้านนT^T”

      “หวังว่าซันบันจ๋าคงไม่ทำแบบนั้นกับหยองใช่มั๊ย” ซูยองเอ่ยถามคนตัวเล็กอย่างหวาดกลัว เมื่อเห็นพวกพี่ๆโดนคุณภรรยาบิดหูขึ้นรถไปแบบนั้น

      “ซันบันไม่ทำแบบนั้นกะหยองหรอก แต่จะทำแบบนี้” พูดเสร็จร่างเล็กก็กระโดดขึ้นหลังแล้วบิดหูของคนตัวสูงทั้งสองข้าง

      “จ๊าก!ไม่โดนข้างเดียวแต่โดนสองข้าง ใจร้าย T^T”

      “ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะของเด็กเหม่งดังขึ้น เมื่อเห็นบรรดาคุณพ่อโดนแบบนั้น

      “หัวเราะอะไรค่ะ อยากโดนแบบนั้นเหรอ” จูฮยอนถามทำเอายุนอาหุบยิ้มทันที

      “ไม่อยากค่ะ” รีบตอบทันที

      “ตอบมาได้ว่าส่องสาว ทำบ่อยละสิท่า” ร่างบางถามร่างสูงอย่างสงสัย

      “มะ ไม่เคย ถึงเคยพี่ก็รักเธอนะ” ร่างสูงตอบแล้วแอบขโมยหอมแก้มร่าง ก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถ

      “พี่ยุน หยุดเลยนะ รอด้วย” เสียงใสของจูฮยอนดังตามร่างสูงไป คงจะไม่มีเรื่องอะไรให้ปวดหัวอีกแล้วสินะ



      The END



















      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×